การลงทะเบียนผู้สูงอายุ
Quote from Guest on 15/02/2023, 10:11สอบถามขั้นตอนการลงทะเบียนผู้สูงอายุหน่อยค่ะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างคะ
สอบถามขั้นตอนการลงทะเบียนผู้สูงอายุหน่อยค่ะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างคะ
Quote from Borthong Lopburi on 10/04/2023, 13:25ขอบคุณสำหรับคำถามครับ
ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
- สัญชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน
- อายุ60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ต้องไม่เคยได้รับสิทธิ์ประโยชน์จากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ
สำหรับการลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปี 2566 จะเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับเงินในปีงบประมาณ 2567 (คือเดือนตุลาคม 2566-กันยายน 2567) ดังนั้น ผู้ที่ลงทะเบียนในปี 2566 จะยังไม่ได้รับเงินในทันที เพราะจะได้รับเงินตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ผู้ที่สามารถลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพในปี 2567 ได้ คือ
- ผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาก่อน
- ผู้ที่จะมีอายุครบ60 ปี ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งนับอายุจนถึงวันที่ 1 กันยายน2565 ดังนั้นต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2507 จึงจะมีสิทธิ์ลงทะเบียนล่วงหน้าในปี 2566 เพื่อรอรับเงินในปีงบประมาณ 2567 (สำหรับผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎรระบุเฉพาะปีเกิด แต่ไม่ทราบวันเกิด/เดือนเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ)
- ผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปที่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแล้ว แต่มีการย้ายภูมิลำเนา เช่น เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพที่จังหวัดชลบุรี แต่ปีนี้ย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่เขตอบต.บ่อทอง จะต้องไปลงทะเบียนใหม่ที่อบต.บ่อทอง
ช่องทางการรับเงินเบี้ยยังชีพ
- รับเงินสดด้วยตนเอง
- รับเงินสดโดยผู้รับมอบอำนาจ
- โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารนามผู้มีสิทธิ
- โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้รับมอบอำนาจ
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้ขอรับเบี้ยยังชีพ
2. ทะเบียนบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่ อบต.บ่อทอง
3. หน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้ขอรับเบี้ยยังชีพ
4. หนังสือมอบอำนาจ หากผู้ขอรับเบี้ยยังชีพไม่ประสงค์จะขอรับเบี้ยยังชีพด้วยตนเอง
ขอบคุณสำหรับคำถามครับ
ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
- สัญชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน
- อายุ60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ต้องไม่เคยได้รับสิทธิ์ประโยชน์จากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ
สำหรับการลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปี 2566 จะเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับเงินในปีงบประมาณ 2567 (คือเดือนตุลาคม 2566-กันยายน 2567) ดังนั้น ผู้ที่ลงทะเบียนในปี 2566 จะยังไม่ได้รับเงินในทันที เพราะจะได้รับเงินตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ผู้ที่สามารถลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพในปี 2567 ได้ คือ
- ผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาก่อน
- ผู้ที่จะมีอายุครบ60 ปี ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งนับอายุจนถึงวันที่ 1 กันยายน2565 ดังนั้นต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2507 จึงจะมีสิทธิ์ลงทะเบียนล่วงหน้าในปี 2566 เพื่อรอรับเงินในปีงบประมาณ 2567 (สำหรับผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎรระบุเฉพาะปีเกิด แต่ไม่ทราบวันเกิด/เดือนเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ)
- ผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปที่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแล้ว แต่มีการย้ายภูมิลำเนา เช่น เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพที่จังหวัดชลบุรี แต่ปีนี้ย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่เขตอบต.บ่อทอง จะต้องไปลงทะเบียนใหม่ที่อบต.บ่อทอง
ช่องทางการรับเงินเบี้ยยังชีพ
- รับเงินสดด้วยตนเอง
- รับเงินสดโดยผู้รับมอบอำนาจ
- โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารนามผู้มีสิทธิ
- โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้รับมอบอำนาจ
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้ขอรับเบี้ยยังชีพ
2. ทะเบียนบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่ อบต.บ่อทอง
3. หน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้ขอรับเบี้ยยังชีพ
4. หนังสือมอบอำนาจ หากผู้ขอรับเบี้ยยังชีพไม่ประสงค์จะขอรับเบี้ยยังชีพด้วยตนเอง